ในปี พ.ศ. 2506 แผนกอายุรกรรมได้ปรับขึ้นเป็นกองอายุรกรรม โดยมี ผู้อำนวยการกอง คนแรก คือ พล.อ.ท.น้อย ปาณิกบุตร เรื่องราวเกี่ยวกับวิวัฒนาการของกองอายุรกรรมตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ได้ถูกถ่ายทอดเป็นบทความโดยอดีตผู้อำนวยการ กองอายุรกรรม ดังนี้
ปี พ.ศ.2528 กองอายุรกรรม เริ่มเปิดอบรมแพทย์ประจำบ้าน สาขาอายุรศาสตร์ทั่วไป จนถึงปัจจุบัน
ผมเข้ารับราชการในกองทัพอากาศเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๙ ถูกบรรจุเข้าเป็นอายุรแพทย์ ขณะนั้นกองอายุรกรรม เป็นเพียงแผนกอายุรกรรม มี น.ต.น้อย ปาณิกบุตร เป็นหัวหน้าแผนก มีอาคาร ผู้ป่วยอยู่ ๓ อาคาร คือ อาคาร ๙ (รับผู้ป่วยชาย) อาคาร ๕ (รับผู้ป่วยหญิงและกุมาร) และอาคาร ๖ ชั้นบน (รับผู้ป่วยชายโรคติดต่อและวัณโรค) กับดูแลผู้ป่วยอาคารพิเศษด้วย
ต่อมา ได้แยกผู้ป่วยเด็กไปเป็นแผนกกุมาร และขยายแผนกอายุรกรรมเป็นกองอายุรกรรม ยังคงมี น.อ.น้อย ปาณิกบุตร เป็นหัวหน้ากองเช่นเดิม และขยายอัตราแพทย์เพิ่มขึ้น
พ.ศ. ๒๕๐๖ รพ.ภูมิพลอดลุยเดช เริ่มเปิดฝึกอบรมแพทย์ฝึกหัด ผู้ป่วยอายุรกรรมมีมากขึ้น แต่แพทย์กองอายุรกรรมกลับลดลง เพราะลาออกไปมาก มีอยู่ช่วงเวลาหนึ่งเหลือแพทย์ปฏิบัติงานอยู่เพียง ๓ นาย นอกนั้นไปศึกษาต่อบ้าง ถูกย้ายไปราชการต่างจังหวัดบ้าง ต้องผลัดกันดูแลผู้ป่วยชายคนหนึ่ง, หญิงคนหนึ่ง ส่วน ผอ.กอง (น.อ.สนอง ศุขเสงี่ยม) ดูแลผู้ป่วยอาคารพิเศษ ต้องสลับกันออก O.P.D. หญิงและชายคนละ ๑ สัปดาห์ ต้อง round ward ก่อน เป็นอยู่เช่นนี้ราว ๒ เดือน จึงมีแพทย์มาช่วยอีกนายหนึ่ง
พ.ศ. ๒๕๑๒ ย้ายกองอายุรกรรม จากอาคาร ๙ ข้ามไปอยู่ที่อาคารอายุรกรรมชายที่สร้างใหม่ อยู่ระหว่างอาคาร ๕ และอาคาร ๖ สถานที่กว้างขวางรับผู้ป่วยได้มากขึ้น
พ.ศ. ๒๕๑๗ น.อ.อาวุธ สิริกรรณะ เป็น ผอ.กองอายุรกรรม สืบแทน น.อ.สนอง ฯ ได้รับมอบอาคารสลากกินแบ่ง ๓ มาอีกอาคารหนึ่ง ได้เปิดหออภิบาลผู้ป่วยหนักขึ้นที่ชั้นล่างของอาคารนี้ ติดตั้งอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัยเพิ่มขึ้น เช่น ECG Monitor, เครื่องช่วยหายใจ, มีเครื่องอุปกรณ์หลายชิ้น เช่น เครื่องตรวจคลื่นสมอง (E.E.G.) กล้องตรวจระบบทางเดินอาหาร
พ.ศ. ๒๕๒๐ น.อ.ประพัตรา ตัณฑ์ไพโรจน์ ดำรงตำแหน่ง ผอ.กองอายุรกรรม สืบต่อจาก
น.อ. อาวุธ ฯ มีการจัดหาอุปกรณ์การแพทย์เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ เช่น Echocardiogram, Hemodialytic Machine, Holter ECG. มีแพทย์กลับจากการศึกษาและอบรมจากทั้งในและต่างประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ ช่วยให้การปฏิบัติงานด้านการแพทย์คล่องตัวมากขึ้น มีการเปิดคลินิคเฉพาะโรคเพิ่มขึ้นหลายคลินิก และเริ่มวางแนวทางอบรมแพทย์ประจำบ้านสาขาอายุรศาสตร์
พ.ศ. ๒๕๒๔ น.อ.สุหัท วัฒนพงศ์ ได้มาดำรงตำแหน่ง ผอ.กองอายุรกรรม ต่อจาก พล.อ.ต. ประพัตรา ฯ ซึ่งก็ยังคงช่วยงานด้านการตรวจรักษาและสอนแพทย์ฝึกหัดต่อไป
ผมปฏิบัติงานในฐานะอายุรแพทย์เรื่อยมาจวบจนกระทั่งเกษียณอายุราชการในปี พ.ศ. ๒๕๓๕ รู้สึกยินดีที่ได้เห็นกองอายุรกรรมก้าวหน้าขึ้นเป็นลำดับ มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาต่างๆ ทางด้านอายุรศาสตร์ ต่างกับในสมัยแรกเริ่มที่อายุรแพทย์ทุกนายจะต้องตรวจและรักษาโรคทางอายุรกรรม ทุกสาขาได้
ขอให้เจริญก้าวหน้าต่อไป
พลอากาศโท ประพัตรา ตัณฑ์ไพโรจน์
อดีตผู้อำนวยการกองอายุรกรรม พ.ศ. ๒๕๒๐-๒๕๒๔
เนื่องจากข้าพเจ้า พล.อ.ต.สุหัท วัฒนพงศ์ ได้รับการติดต่อจากคุณหมอสมชาย มีมณี ให้ช่วยเขียนบทความเกี่ยวกับการพัฒนากองอายุรกรรมในช่วงที่ข้าพเจ้าดำรงตำแหน่ง ผอ.กองอายุรกรรม เป็นเวลา ๓ ปี (พ.ศ. ๒๕๒๖- พ.ศ.๒๕๒๙)
พล.อ.ต.สุหัท วัฒนพงศ์
ข้าพเจ้าได้รับแต่งตั้งให้รับตำแหน่งผู้อำนวยการกองอายุรกรรม รพ.ภูมิพลอดุลยเดช พอ. เมื่อ ต.ค. ๒๕๓๕ ถึง ต.ค. ๒๕๓๖ เพียง ๑ ปี เนื่องจากต้องลาไปรับการอบรมเพื่อติดตามสามีซึ่งไปรับตำแหน่งผู้ช่วยทูตทหารอากาศ ประจำกรุงบอนน์ ประเทศเยอรมันนี แต่เวลาเพียง ๑ ปีที่ได้มีโอกาสบริหารกองอายุรกรรมนี้ ข้าพเจ้าถือว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจ มีคุณค่าที่ไม่อาจลืมได้เลย
นอกจากงานประจำ เช่น การมอบหมายความรับผิดชอบและควบคุมดูแลให้แพทย์รุ่นน้อง พยาบาล และลูกจ้าง ประมาณร้อยกว่าคน ดูแลรักษาผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก, รับผิดชอบงานจรอื่นๆ นอกโรงพยาบาลแล้วแต่ผู้บังคับบัญชาจะสั่งการ และงานดูแลการฝึกสอนอบรมนักเรียนแพทย์ และแพทย์ประจำบ้านที่หมุนเวียนมาที่กองอายุรกรรมแล้ว งานด้านพัฒนากองอายุรกรรมก็เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าตั้งความปรารถนาไว้ตั้งแต่แรก งานนั้นได้แก่
ถ้าท่านนึกถึงอวัยวะต่างๆ ในร่างกายว่ามีกี่อย่าง แต่ละสาขาก็มุ่งรักษาแต่ละอวัยวะนั่นเอง ซึ่งฟังดูจะขัดแย้งกับความรู้สึกของคนทั่วไปอยู่บ้างว่า แพทย์คนหนึ่งจะรักษาผู้ป่วยทั้งตัวมิได้หรือ? ก็ต้องขอเรียนว่า ก็ได้อยู่หรอกสำหรับโรคธรรมดาสามัญที่ไม่ซับซ้อนนัก แต่ถ้าโรคนั้นดำเนินมาถึงที่สุดแล้ว แพทย์คนเดียวไม่อาจรักษาในด้านลึกทุกด้านได้ เพราะเขาจะต้องการเวลาเกินกว่าวันละ ๒๔ ชั่วโมง และสมองคอมพิวเตอร์จึงจะสามารถเรียนรู้และฝึกงานให้เจนจัดในทุกด้านได้ แต่ใครๆ ก็ต้องการให้แพทย์รักษาตัวเขาจนถึงที่สุดที่ขีดความสามารถของวงการแพทย์สมัยใหม่จะทำได้ มิใช่หรือ ? ดังนั้น แพทย์อายุรศาสตร์คนหนึ่งสมควรฝึกงานสาขาย่อยสาขาหนึ่งที่เขาชอบและถนัดในด้านลึก เพื่อช่วยแพทย์อีกคนหนึ่งที่มิได้เรียนลึกในทางนี้หรือเป็น “ที่ปรึกษา” นั่นเอง
ด้วยเหตุผลอันยืดยาว และด้วยความเห็นชอบของผู้บังคับบัญชา ตั้งแต่ท่านเจ้ากรมแพทย์ทหารอากาศสมัยนั้น (พล.อ.ท.กิตติ เย็นสุดใจ) และท่านผู้อำนวยการ รพ.ภูมิพลอดุลยเดช พอ. (พล.อ.ต. สญชัย ศิริวรรณบุศย์) ซึ่งได้อนุมัติเงินจำนวนหนึ่งให้จัดตั้งห้องตรวจสวนหัวใจขึ้น (Cardiac Catheterization Laboratory) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรักษาโรคหัวใจ รอรับแพทย์ที่ได้ส่งไปเรียนเพิ่มเติมด้านโรคหัวใจที่สหรัฐอเมริกาอยู่ก่อนแล้ว (โดยทุนคุ้มเกล้าฯ) และเตรียมจัดหาพยาบาลไปดูงานการสวนหัวใจที่ รพ.ทรวงอก นนทบุรี งานด้านสวนหัวใจ (Cardiac catheterization) เป็นการประสานงานและสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจของกองศัลยกรรม รพ.ภูมิพล อดุลยเดช พอ.ที่เริ่มขึ้นในปีต่อมา และผู้บังคับบัญชายังได้ดำริให้ตั้งศูนย์โรคหัวใจต่อมาอีกด้วย งานจัดตั้งห้องสวนหัวใจนี้สำเร็จลงได้ก็เนื่องจากได้รับความร่วมมือจากแพทย์โรคหัวใจที่มีเพียงไม่กี่คนในสมัยนั้น และพยาบาลที่มีประสบการณ์หลายท่าน จึงต้องขอขอบคุณไว้ในที่นี้ด้วย
นอกจากงานต่างๆ ดังกล่าวมาแล้ว งานตรวจรักษาผู้ป่วยที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีและมีน้ำใจ รวมทั้งความร่วมมือจากลูกน้องก็ทำให้ข้าพเจ้ามีกำลังใจฝ่าอุปสรรคไปได้ ทำให้ ๑ ปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว และเป็นประสบการณ์ที่ทำให้ลืมไม่ลง
น.อ.หญิงโอบแก้ว ดาบเพ็ชร
๒๓ มิ.ย. ๓๙
กองอายุรกรรม ได้เป็นมา กำลังเป็นอยู่ และกำลังจะเป็นต่อไป ด้วยคุณงามความดี และความตั้งใจ อุตสาหะ ของ ผอ.กองอายุรกรรมทุกท่านที่ผ่านมาในอดีต ตลอดทั้งผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น และชาวกองอายุรกรรมทุกท่าน
ผมได้รับแต่งตั้งเป็น ผอ.กองอายุรกรรม นับตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๓๖ สืบต่อจาก น.อ.หญิงโอบแก้ว ดาบเพ็ชร ที่ต้องย้ายติดตามสามีไปราชการต่างประเทศ การที่ต้องเข้ารับหน้าที่ตามวาระปกตินั้น ทำให้ผม ตระหนักดีถึงภาระ ความรับผิดชอบมากมาย ทั้งสืบสานงานเก่าและสร้างงานใหม่ เพราะถือเป็นความไว้วางใจและความเมตตาของผู้บังคับบัญชาที่มอบระยะเวลา ๓ ปี ในการบริหารและพัฒนางานของกองอายุรกรรมให้แก่ผม ได้แก่
การประชุมวิชาการต่างๆ ทั้งในระดับกองฯ ระดับโรงพยาบาล ระหว่างโรงพยาบาลและการประชุมของราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ล้วนอาศัยบทบาทของแพทย์ในหน่วยต่างๆ ซึ่งจำเป็นต้องสอดประสานกับงานบริการอันเป็นภารกิจหลัก เพื่อไม่ให้เสียประโยชน์ของภารกิจหลัก จึงเป็นหน้าที่ที่สำคัญของ ผอ.กองอายุรกรรม ทั้งในอดีตและปัจจุบัน งานด้านการเรียนการสอน ทางกองอายุรกรรม ได้มีส่วนร่วมในการจัดทำหลักสูตร Medical education มีผลทำให้การเรียน การสอน การออกข้อสอบดีขึ้น ถูกหลักเกณฑ์และทันสมัย และได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นโดยตรง มีหน้าที่ดูแลการศึกษาของนักศึกษาแพทย์ การทำข้อสอบและการเก็บข้อสอบเข้าธนาคารของกองฯ การออกข้อสอบ ตรวจข้อสอบ และประเมินผลอย่างถูกต้อง ทางด้านการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้าน ทางกองฯ ได้ตั้งกรรมการดูแลแพทย์ประจำบ้าน มีหน้าที่ดูแล คัดเลือก จัดการสอบ และดำเนินการอบรมตามระเบียบของแพทยสภา การฝึกอบรมนี้นับว่าประสบผลสำเร็จด้วยดี มีจำนวนผู้ป่วยเพียงพอ และกว้างพอที่จะช่วยให้แพทย์ประจำบ้านที่ผ่านการอบรม ๓ ปี แล้วมีความรู้ความชำนาญ รอบรู้ทุกระบบเหมาะสมสำหรับบำบัดรักษาโรคทางอายุรกรรม จึงมีผู้สำเร็จการฝึกอบรมและสามารถสอบผ่านได้ทุกคนจากอดีตถึงปัจจุบัน รวม ๙ รุ่น นับตั้งแต่ปี ๒๕๓๑ และในในปี ๒๕๓๙ กองอายุรกรรม รพ.ภูมิพลอดุลยเดช พอ. ก็ได้รับเกียรติเป็นสนามสอบบอร์ดทางอายุรศาสตร์ของแพทยสภา การอบรมนักศึกษาแพทย์ และแพทย์ประจำบ้านของกองฯ ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงให้ดีขึ้นอยู่ตลอดเวลา และมีการประเมินผลเป็นระยะๆ
น.อ.วิศิษฐ์ ดุสิตนานนท์
ก.ย. ๒๕๓๙